ประวัติความเป็นมาของเมนู "ผัดกะเพรา" ในด้านของยุค จอมพล ป. พิบูลสงคราม

เมื่อพูดถึง "ผัดกะเพรา" เชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องรู้จักและเคยลิ้มลองความอร่อยของเมนูนี้มาแล้ว แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยทราบคือ เมนูผัดกะเพรายอดนิยมที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยนี้ แท้จริงแล้วไม่ได้มีมาตั้งแต่โบราณ หากแต่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือราว พ.ศ. 2490 ในยุคของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม

การกำเนิดเมนู "ผัดกะเพรา" 

ในยุคนั้น ประเทศไทยอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูและปรับปรุงวัฒนธรรม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ดำเนินนโยบาย "รัฐนิยม" เพื่อสร้างเอกลักษณ์ประจำชาติขึ้นใหม่ ครอบคลุมทั้งด้านการแต่งกาย การดำเนินชีวิต รวมถึงอาหารการกิน หนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือ การจัดประกวดอาหารและขนมประจำชาติ โดยจุดประสงค์คือการเฟ้นหาเมนูที่แสดงถึงความเป็นไทยอย่างชัดเจน

ในงานประกวดนั้น "ผัดไทย" คว้ารางวัลอันดับหนึ่ง แต่ "ผัดกะเพรา" ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน จนได้รับการพัฒนาสูตรโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ให้ตอบโจทย์ความเป็นอาหารไทยที่เรียบง่าย แต่ครบเครื่อง

ความแตกต่างของ "ผัดกะเพรา" ในยุคแรกเริ่ม

แม้ชื่อจะยังคงเหมือนเดิม แต่ "ผัดกะเพรา" ในยุคเริ่มแรกกลับมีส่วนผสมและวิธีปรุงที่ต่างจากปัจจุบัน โดยสูตรดั้งเดิมไม่ได้ใช้ใบกะเพราเป็นส่วนประกอบหลักเพียงอย่างเดียว แต่มีการผสมสมุนไพรไทยหลากชนิด เช่น ใบโหระพา และพริกหอม เพิ่มเติมลงไปเพื่อสร้างกลิ่นหอมและรสชาติที่จัดจ้าน

เนื้อสัตว์ที่ใช้ในยุคนั้นยังเน้นไปที่เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเครื่องในสัตว์ โดยไม่ได้จำกัดว่าเป็นเนื้อประเภทใด และไม่มีการใส่ไข่ดาวหรือข้าวสวยจัดจานสวยงามเหมือนผัดกะเพราในปัจจุบัน

ผัดกะเพรา กับความเป็นไทยที่แท้จริง

หลังจากยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม "ผัดกะเพรา" ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเรียบง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทุกชนชั้น ทำให้เมนูผัดกะเพรานี้กลายเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติที่ไม่มีใครแทนที่ได้

ปัจจุบัน "ผัดกะเพรา" ไม่เพียงแต่เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย แต่ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะเมนูที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านกลิ่นหอมของสมุนไพรและรสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน จะเห็นได้ว่า เมนูผัดกะเพรานี้ไม่ใช่เพียงอาหาร แต่ยังสะท้อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการปรับตัวของสังคมไทยในยุคเปลี่ยนผ่านได้อย่างงดงาม

ผัดกะเพราจากยุคของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม สู่อาหารไทยที่ไปไกลระดับโลก 

จากข้อมูลทาง ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะทำให้เราเห็นได้ว่า เมนูผัดกะเพรานั้นเป็นอาหารจานสำคัญที่หล่อเลี้ยงปากท้องคนไทยมาเป็นเวลานาน และจานผัดกะเพรานี่เองยังเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมที่สำคัญของคนไทยในการแสดงถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญา ซึ่งสามารถครองใจทั้งคนไทยและต่างประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ผัดกะเพราไม่ได้เป็นแค่อาหาร แต่จะเป็นตำนานคู่คนไทย ซึ่งเราควรรักษาไว้ให้ยังคงถูกพูดถึง

ร้านผัดกะเพราแชมป์โลก พร้อมนำเสนอรสชาติความเป็นไทยระดับโลก 

หลายคนต่างให้เสียงเดียวกันว่า หากพูดถึงเมนูสิ้นคิดของคนไทยคงหนีไม่พ้น ผัดกะเพรา เมนูที่ไม่ว่าจะชนชั้นไหนก็ต่างพากันหลงรักต่างก็เคยลิ้มลองกันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่? เมนูผัดกะเพราที่แสนธรรมดานี้ ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติสั่งกันมากที่สุด คว้าอันดับ4 ไปครอง โดยอันดับที่1 ยังคงเป็นเมนู ต้มยำกุ้ง เจ้าเก่าเจ้าแก่ของเรา แต่ในปี2023ที่ผ่านมา เว็บไซต์อาหาร เทสต์แอตลาส (TasteAtlas) จัดอันดับอาหารจานผัดที่ดีที่สุดในโลก 50 อันดับ 


จากการรีวิวของผู้ใช้ ปรากฏว่า ผัดกะเพรา คว้าอันดับ 1 ไปครอง โดยอธิบายถึงผัดกะเพราว่า เป็นเมนูผัดดั้งเดิมของไทยที่นำเนื้อสัตว์ที่สับแล้ว หรืออาหารทะเล มาผัดกับใบกะเพราและวัตถุดิบอื่นๆ เช่น หอมแดง กระเทียม พริก ปรุงรสด้วยซีอิ๊ว น้ำตาล และน้ำปลา โดยมักจะเสิร์ฟพร้อมข้าว ไข่ดาว และพริกน้ำปลา ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเราที่เมนูธรรมดาของคนไทย ถูกไปแตะตาในสายตาชาวโลก

ผัดกะเพราใกล้ฉันมีอยู่ทั่วไป แต่ผัดกะเพราไทยระดับโลกต้อง Phat KAPHRAO World Champ  

แน่นอนว่าวันนี้ ได้ชื่อว่า ผัดกะเพราแชมป์โลก บอกเลยว่าต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบหรือวิธีการทำนั้นมีรายละเอียดหยิบย่อยเยอะมาก อย่างเช่นที่ร้านทำไมเลือกใช้พริกถึง 5 ชนิดด้วยกัน ทำไมใบกะเพรา ต้องมีทั้งใบกะเพราแดง ใบกะเพราขาว ใบกะเพราป่า ทุกรายละเอียดทุกปัจจัยนั้นมีผลต่อรสชาติจริงๆ เราคิดมาแล้วว่าผัดกะเพราหนึ่งจาน ความอร่อยส่วนนี้เป็นเพราะอะไร อะไรที่ทำให้กลิ่นกะเพราชัด โดยไม่ไปกลบรสชาติของเนื้อ ความเผ็ดแบบไหนที่กำลังดี พริก1ชนิดความเผ็ดแบบไหน


ไม่แปลกใจเลยที่รสชาติผัดกะเพราแชมป์โลกหนึ่งจานจะมีรสชาติที่ซับซ้อนและมีหลายมิติได้ถึงขนาดนี้ พูดกันมาถึงขนาดนี้ คงจะนึกภาพออกกันแล้วว่าทำไม อยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสประสบการณ์กะเพราระดับโลก ผัดกะเพราใกล้ฉันอาจมีอยู่ทั่วไป แต่ผัดกะเพราแชมป์โลกมีอยู่ที่เดียว ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทุกท่านสามารถเข้ามาร้านกะเพราของเราได้ที่

60 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, ชั้น LG, ห้องเลขที่ LG00U025, เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 20.00 น.
สามารถสั่งอาหารได้ถึงเวลา 19.30 น.
หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดต่างๆได้ที่เบอร์ 0989192291